วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

แล้ว...เมื่อไหร่ฉันจะได้กลับบ้านสักที


การที่ต้องจากบ้านมาไกล เป็นสาเหตุหนึ่งของความเหงาได้ง่าย ๆยามเย็นมองพระอาทิตย์ลับตาอยู่ไกล ๆ อยากจะรู้ว่าคนที่เราห่วงใยสบายดีหรือเปล่า หลายครั้งที่น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้สาเหตุ เวลาที่ทุกข์ เวลาที่เศร้า ไม่มีใครคอยอยู่ข้าง ๆ คอยฟังเรื่องราวและปลอบโยนในเวลาที่ยิ้ม เวลาที่ดีใจ ก็ไม่มีใครมาคอยยินดีกับฉัน
การต่อสู้โลกกว้างเพียงลำพัง เป็นสิ่งที่ฉันใฝ่ฝันและตามหา...เพราะมันนำมาซึ่งประสบการณ์ดี ๆ ในการได้เติบโตและเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่น้อยครั้งเหมือนกัน ที่ฉันอยากจะเป็นเด็กน้อย ๆ แล้วกลับไปกอดแม่ ปล่อยน้ำตาให้ไหล ให้แม่คอยปลอบใจว่า "ไม่เป็นไร..แม่อยู่ข้าง ๆ"ซึ่งในความเป็นจริงแล้วก็ยังคงเปล่าว่าง และต้องเช็ดน้ำตาอยู่คนเดียว
แม้ว่าบ้านจะเป็นสถานที่ๆคุ้นเคยจนน่าเบื่อและอยากหนีออกมาแต่ก็ไม่มีที่ไหนอบอุ่นและปลอดภัยมากไปกว่าเตียงนุ่ม ๆ กับผ้าห่มเก่า ๆของฉันอีกแล้ว และมีนางฟ้าเเละเทวดาผู้ใจดี
ที่จะคอยเข้ามาปลอบใจในเวลาที่ฉันสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายกลางดึก มันทำให้ฉันอุ้นใจและรู้ว่าไม่เป็นอะไรเพราะเป็นแค่เพียงฝันร้ายเท่านั้น แต่กับการที่ต้องอยู่ห่างไกลจากบ้าน...เวลาที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาไม่มีใครรอบกาย
ไม่มีเสียงที่คอยปลอบใจ และฉันก็ยังสะอื้นต่อไปเพราะไม่รู้ว่าฝันร้ายนั่นจะเป็นความจริงไหม
และฉันก็มักจะนึกถามตัวเองอยู่เสมอว่า...แล้วเมื่อไหร่...ฉันจะได้กลับบ้านสักที...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความพึงพอใจต่อบล็กนี้